
• เบื้องหลังความรวย ความจน
ไม่ใช่เกิดจากความบังเอิญเกิดที่นั่นที่นี่
แต่สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ทุกคนมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
มีกรรมเป็นผู้จำแนกชั้นวรรณะ
และความร่ำรวย ก็บันดาลขึ้นจากความสว่างของ
‘ทานจิต’ และ ‘ศีลจิต’ เท่านั้น
ไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกเหนือกว่านี้
• หากถามว่า ทำกรรมอะไรมาถึง รวยเป็นพิเศษ
คำตอบตรงตัว คือ ทำกรรมด้วยอาการเผื่อแผ่
มีใจที่กว้าง เป็นไปในทางช่วยเหลือผู้อื่นเป็นพิเศษ
และบ่อยครั้งกว่าคนทั่วไป
• ถ้าอยากเห็นผลของทานอันยิ่งใหญ่ในชาติถัดไป
ชาตินี้คุณจะต้องมี น้ำใจยิ่งใหญ่ไปจนตาย
ไม่ใช่ให้ทานเหมือนลงทุนเก็งกำไรหนสองหน
ปีนี้บริจาคสามร้อย ปีหน้าหวังดอกเบี้ยงอกเป็นสามล้าน
• ความร่ำรวยเกิดจากความมีใจกว้าง มีใจเผื่อแผ่
กรรมใดที่เป็นไปเพื่อความกรุณาต่อผู้อื่น
ช่วยให้ทุเลาทุกข์
ช่วยให้ความสุข
ช่วยให้ความสบาย
ช่วยให้ความปลอดภัยกับมหาชน
กรรมนั้นย่อมขยายขอบเขตอาณาจักรเงินทองได้ทั้งสิ้น
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
• อยู่อย่างคนที่จนกว่าตัว
ให้อย่างคนที่รวยกว่าตน
แล้วจะมีเหลือกินเหลือใช้ทั้งชาตินี้และชาติหน้า
• คนเราไม่รู้ว่า
ที่กำลังเป็นเจ้าของบ่อน้ำมันมหึมา
ก็เพราะเคยเป็นเจ้าของบ่อน้ำใจมหาศาลมาก่อน
• ถ้าพบว่าการฝึกให้ทานเป็นเรื่องยาก
ก็อย่าคิดว่าจะเอาของไปให้เขา
แต่จงคิดว่าเราจะไปเอาความสุข ความสบายใจ
และบุญใหญ่มาจากเขาแทน
• ยิ่งตั้งข้อแม้ในการให้ทานมากขึ้นเท่าไร
ยิ่งไม่ใช่การให้ทานมากขึ้นเท่านั้น
• มือที่ยื่นออกไปให้ทาน
เป็นมือที่มีความสว่าง
รู้สึกได้ด้วยใจที่คิดให้อย่างอ่อนโยน
• สิ่งได้มาจากการให้ไป
คือใจที่อิ่มเดี๋ยวนี้
และภพใหม่ที่เข้ากันกับความอิ่มใจ ในภายหน้า
• จิตให้นั้นเบา จิตเอานั้นหนัก
• ให้เปล่า คือได้เปล่า
• หัดให้ แล้วจะรู้สึกว่ามีพอให้ได้ไม่ขาด
เอาแต่ได้ แล้วจะรู้สึกขาด ขนาดเอาเท่าไหร่ก็ไม่พอ
• ขอให้จำไว้ว่า
การทำบุญไม่ใช่การเอาเงินมากๆ ไปแจกคนอื่น
แต่เป็นการเอาส่วนเกินน้อยๆ
ไปละลายความตระหนี่ในตนเอง
• ทำบุญมากไป
ก็เหมือนสุรุ่ยสุร่ายไม่ระวัง ย่อมเงินขาดมือ เป็นทุกข์ทางใจ
ทำบุญพอดีฐานะ
จะทำลายความตระหนี่ ให้ผลเป็นสุขทางใจโล่งเบา
. . . . . . . . . . . . . . . . .
• เรื่องการทำทานน่ะนะ
ความจริงถ้าเข้าใจหลักสำคัญ
ก็ไม่มีอะไรมากหรอก
ขอแค่แม่นตรงจุดยอดจุดเดียว
คือบุญจะเกิดเต็มเม็ดเต็มหน่วย
กับจิตที่เปิดกว้าง ที่เบิกบาน ที่เป็นปีติสุข
ถ้าเห็นตรงนี้ให้ได้
คนเราจะฉลาดทำบุญเหมือนๆกันหมด
สามารถนำไปเป็นหลักตรวจสอบใจตัวเองได้หมด
ว่าคิดเข้าร่องเข้ารอยหรือยัง
• ฐานะของคนเราโดยมาก
ก็ผูกอยู่กับผลของทานที่ทำนั่นแหละ
ไม่ให้ทานเลย ก็เป็นอยู่อย่างคนไม่มีอะไรเลย
ให้ทานอย่างคนธรรมดา ก็เป็นอยู่อย่างคนธรรมดา
ให้ทานอย่างราชา ก็เป็นอยู่อย่างราชา
ให้ทานอย่างจักรพรรดิ ก็เป็นอยู่อย่างจักรพรรดิ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
• ความรวยที่มั่งคั่ง และมั่นคงแต่แรกเกิด
มักจะมาจากการมีทานจิตยิ่งใหญ่สม่ำเสมอในอดีตชาติ
กล่าวคือถ้าชาติใดมีความคิดเสียสละ
มีความคิดอยากให้ทรัพย์แก่คนยาก
มีเจตนาทำนุบำรุงสมณะนักบวช
ให้อยู่ดีมีความสุขในการประพฤติพรหมจรรย์
โดยทำเรื่อยๆตามควรแก่ฐานะ
บุญจะสั่งสมเป็นกองภูเขา
อีกทั้งจิตใจจะเปิดกว้างไม่ตระหนี่คับแคบ
ซึ่งรวมรวบยอดแล้วพอสิ้นสุดภพนั้น
กรรมก็จะเลือกสรรแดนเกิดใหม่ให้
โดยมีความสบายรับกับจิตที่ปราศจากโลภะ
เมื่อเลือกที่เกิดให้ก็ยังไม่หมดแรงส่ง
เพราะทานที่ทำทั้งชาติมีกำลังใหญ่ สายป่านยาว
จึงส่งแรงอุดหนุนให้มั่งคั่งสม่ำเสมอเนิ่นนาน
โอกาสร่วงหล่นจากบัลลังก์เพชรบัลลังก์พลอยนั้นยากยิ่ง
เพราะทานที่ทำในปัจจุบันชาติมักมาในรูปของกำลังหนุน
ไม่ใช่หัวรถจักรฉุดดึงฐานะทางการเงินได้ทันตาทันใจ
หัวรถจักรสำคัญนั้น
ได้แก่ผลของทานและศีลที่บำเพ็ญไว้ในอดีต
บวกกับความฉลาดในลู่ทางหาเงินในปัจจุบัน
หากขาดหัวจักรดังกล่าว ก็ต้องค่อยๆสร้างสมกันครับ
เมื่อไม่ได้ทำทานด้วยจิตคิดสละ
ไม่ได้ทำเพราะอยากอนุเคราะห์อย่างแท้จริง
ทานนั้นก็มักมีผลน้อย หรือให้ผลช้า
เนื่องจากความโลภเป็นของหนัก
นอกจากทำจิตให้ทึบ ไม่ปลอดโปร่งเป็นกุศลเต็มที่แล้ว
ยังบั่นทอนกำลังบุญ หรือหน่วงเหนี่ยวไม่ให้เกิดผลเร็วอีกด้วย

• กรรมอันเป็นเหตุแห่งความวิบัติ
ของทรัพย์สินเงินทองโดยตรง
คือการลักขโมย ความคดโกง ความอกตัญญู
ความตระหนี่ถี่เหนียว และความติดใจการพนัน
• คำแนะนำที่ดีที่สุด
คือประกอบสัมมาอาชีพ
ขยันขันแข็งให้เต็มกำลัง
และอย่าหวังรวยทางลัด
การมีอาชีพซื่อสัตย์สุจริตและความขยันขันแข็งนั้น
ไม่ใช่อำนวยผลเฉพาะหน้าที่การงานนะครับ
แต่ยังเหมือนเป็นฐานรองรับความกินดีอยู่ดีที่สมตัวในระยะยาวด้วย
เมื่อประกอบอาชีพสุจริต มีรายได้มา
ก็ลองฝึกที่จะเผื่อแผ่ เจือจาน
ได้น้อยก็ทำน้อย แต่ขอให้มีใจใหญ่เป็นหลักก็แล้วกัน
คุณจะพบด้วยตนเองว่าการให้ในแต่ละครั้งนั้น
มีปรากฏการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับใจตน
คือเบาลงเรื่อยๆ ยินดีมากขึ้นเรื่อยๆ
เลื่อมใสในการให้มากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงตรงนั้นต่อให้ไม่มีผลตอบแทนเป็นรูปธรรมใดๆ
ใจคุณก็ไม่รอแล้ว
เพราะอิ่มสุขอิ่มปีติอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว
พอถึงจุดของความชอบให้
ชอบช่วยด้วยไม่หวังผลตอบแทน
นั่นแหละครับ
ความช่วยเหลือจากธรรมชาติจะเริ่มไหลมาเทมา
คุณไม่อยากได้ก็ต้องได้
คุณไม่อยากรวยก็ต้องรวย
เพื่อเอาไว้เป็นทุนทำทาน
เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัวต่อไปไงครับ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
• อยู่ในเน็ตด่าคนรวย
อยู่ในออฟฟิศรับใช้คนรวย
เอาแต่แอบบ่นว่าอยากรวยอยู่ในใจ ในที่สุดจะไม่รวย
• ก่อนอิจฉาคนรวย
สืบดูดีๆว่าเขากำลังเป็นทุกข์
เรื่องหาเงินมาใช้หนี้ให้ทันอยู่หรือเปล่า
ถ้าไม่ทุกข์ค่อยอิจฉาเขาได้
• มีเงินแค่ไหนก็รวยไม่ถึงใจ
ถ้าไม่มีใจที่สบายมารับเงิน
• รหัสผ่านเพื่อเข้าถึงชีวิตที่เป็นสุขมีอักษรแค่สองตัวจำง่าย คือ “พอ”
• สิ่งที่ไม่น่าพอใจที่สุด คือ อาการของใจที่ไม่พอ
• ใช้ชีวิตเป็นก็ใช้เงินเป็น
แต่ใช้เงินเป็นยังไม่แน่ว่าจะใช้ชีวิตเป็น
• อย่าแลกเอาเงินไร้หัวใจมา
ด้วยการทิ้งเวลาของชีวิตไปจนหมด
• ทางปากท้อง
กินบ่อยถึงจะอิ่มนาน
แต่ทางจิตใจ หยุดกินถึงจะอิ่มทน
• รายได้ของคนหาเลี้ยงชีพคำนวณกันเป็นจำนวนเงิน
รายได้ของคนหาความสุขคำนวณกันเป็นน้ำหนักบุญ
ดังตฤณ
ร่วมแชร์ เป็นธรรมทานและสะพานบุญ
Like this:
Like Loading...